เริ่มวางจำหน่ายกันไปแล้วกับ Nokia Asha 501 ในราคา 2,990 บาท ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ Asha Platform ที่เริ่มจะกลายเป็นสมาร์ทโฟนเข้าไปทุกที ไม่เพียงเท่านี้ ยังมาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ ฉีกหนี Nokia Asha แบบเดิมๆอย่างไม่เห็นฝุ่น โดยตัวเครื่องจะละม้ายคล้ายคลึงกับ Nokia Lumia ที่เป็น Windows Phone ด้วย

ดีไซน์และฮาร์ดแวร์

Nokia Asha 501 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก Nokia Lumia ดังนั้นที่ดีไซน์ที่เห็นก็ละหม้ายคล้ายคลึงกับ Nokia Lumia โดยเป็นแบบโมโนบล็อกหรือแบบแท่งนั่นเอง สามารถถอดฝาปลี่ยนได้ จะมีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง, สีเขียว, สีฟ้า, สีเหลือง, สีขาว และ สีดำ พร้อมกับหูฟังสมอลทอล์คสีแดงสดให้ในชุด เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของ Nokia Asha

Nokia Asha 501 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด QVGA (320 x 240 พิกเซล) กระจกกันรอย Gorilla Glass เหนือหน้าจอแสดงผลมีลำโพงสำหรับสนทนาและเซ็นเซอร์ ใต้หน้าจอสแดงผลจะมีแค่ปุ่ม Back เท่านั้น

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆเลย

ด้านบนมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์จ ถัดมาเป็นพอร์ต microUSB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมฯเพื่อโอนถ่ายข้อมูล และสามารถใช้ชาร์จได้ด้วย สุดท้ายจะเป็นช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา ถัดลงมาเป็นปุ่มล็อค/ปลดล็อคเครื่อง โดยใช้ร่วมกับปุ่ม Power กดค้างไว้เพื่อปิด/เปิดเครื่อง

ด้านล่างของตัวเครื่องก็โล่งๆ ไม่มีอะไรเช่นเดียวกับด้านซ้าย

ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล ฝาหลังสีสันสดใสทำจากโพลีคาร์บอเนต ถัดลงมาเป็นปุ่มสำหรับเปิดฝาหลัง โดยมีลำโพงสปีกเกอร์วางอยู่รอบๆปุ่มนี้

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ BL-4U ความจุ 1,200 mAh ที่โนเกียได้ทำให้เป็นสีดำ เพื่อให้เข้ากับตัวเครื่องที่อยู่ด้านใน

ช่องใส่ microSD และ SIM 2 จะอยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย

ส่วนช่องใส่ SIM 1 จะอยู่ใต้แบตเตอรี่ สำหรับ SIM 1 และ SIM 2 จะใช้ micro SIM ทั้งคู่

การออกแบบของ Nokia Asha 501 ที่มีฝาหลังครอบนั้น จะช่วยในตอนที่เราทำเครื่องตกหล่น แล้วเครื่องจะไม่กระจาย เพราะเนื่องจากฝาหลังยังครอบอยู่นั่นเอง และจุดที่จะบ่งบอกว่าเครื่องนี้สีอะไร สามารถสังเกตุได้จากปุ่มเปิดฝาหลัง โดยสีที่ทางโนเกียวางจำหน่าย 6 สีนั้น ได้มีการทดสอบแล้วว่าแต่ละสีจะตัดกันอย่างสวยงาม รวมถึงหูฟังสีแดงสดใสที่มาในชุดจัดจำหน่ายทุกสี จะตัดกันอย่างสวยงาม  มี 2 สีที่พิเศษก็คือสีแดงและสีเขียว จะมีการเรืองแสงเมื่อมีไฟ Back light ส่อง

การใช้งานทั่วไป

Nokia Asha 501 จะใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ที่ชื่อว่า Asha Platform โดยจะต้องใช้แอพพลิเคชั่นใหม่หมด ซึ่งทางโนเกียก็ได้จัดทำชุดเครื่องมือให้นักพัฒนาทำการแปลงแอพพลิเคชั่นแล้ว สำหรับการใช้งานก็มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ให้ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม เริ่มจากหน้า lock screen กันเลยทีเดียว

การปลดล็อคหน้าจอนั้นสามารถทำได้โดยการใช้มือเดียว เริ่มจากการเคา 2 ครั้ง เพื่อให้หน้าจอแสดง lock screen ขึ้นมา ในหน้า lock screen นี้จะแสดงการเตือนต่างๆ ด้วย เราสามารถ swipe การเตือนต่างๆนั้น เพื่อเข้าสู่แอพฯโดยทันที หรือจะทำการ swipe นิ้วไปด้านข้าง เพื่อเข้าสู่หน้าจอหลักก็ได้

หน้าจอหลักจะมี 2 หน้าจอ ได้แก่ Fastlane และ Applications สามารถสลับไป-มาด้วยการ swipe หน้าจอ หรือจะกดปุ่ม back ก็ได้

หน้า Applications จะเป็นหน้ารวม icon ของทุกแอพพลิเคชั่นในหน้านี้ สามารถจัดเรียง icon ใหม่ได้ด้วยการแตะที่ icon ที่ต้องการค้างไว้ แล้วย้ายไปยังตำแหน่งที่การ หรือต้องการลบแอพฯที่เราไม่ต้องการ ก็ทำการแตะค้างไว้ และแตะที่สัญลักษณ์กากบาท (X) เพื่อทำการลบได้ทันที

หน้า Fastlane จะเปรียบเสมือน History การใช้งานของเรา โดยจะเก็บข้อมูลการใช้งานของเราล่าสุด 50 รายการ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอพฯไหน, พิมพ์ข้อความ อีเมล์ ก็จะแสดงในหน้า Fastlane พร้อมกันนี้เรายังสามารถแตะที่ icon เพื่อเข้าแอพพลิเคชั่นนั้นๆได้ทันที

เมื่อ Swipe จากด้านบนของหน้าจอลงมา ก็จะเป็นการเรียก notifications bar รวมถึงเมนูลัดสำหรับการเปิด/ปิด Wi-Fi, Bluetooth, Mobile Data, Silence

การใช้งานภาษาไทย Nokia Asha 501 ก็รองรับอย่างสมบูรณ์ สามารถเลือกใช้เมนูและคีย์บอร์ดไทยหรือภาษาอื่นๆอีกมากมาย การเปลี่ยนภาษาในคีย์บอร์ดก็ทำได้ง่าย เพียงแค่แตะที่ space bar แล้ว swipe ไปด้านข้าง ก็เปลี่ยนภาษาที่จะพิมพ์ได้ทันที

การฟังเพลง จะรองรับไฟล์ MP4, AAC, AMR, MP3, M4A, AVI, 3GP, 3G2, MIDI แสดงปกอัลบั้มขนาดใหญ่ สามารถสร้าง Playlist ได้ ส่วนการดูวิีโอ จะรองรับไฟล์ MP4, ASFH, AVI, 3GP

Nokia Asha 501 สามารถใช้งานวิทยุได้ โดยต้องใช้ร่วมกับหูฟังสมอลล์ทอล์ค และสามารถบันทึกสถานีที่ชื่นชอบไว้ได้

สำหรับการเรียกเมนู settings ของแต่ละแอพฯ หากมีแถบ 3 ขีด ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ สามารถใช้นิ้วลากเมนูการตั้งค่าของแต่ละแอพฯขึ้นมาได้

แอพพลิเคชั่น, เกมส์, Email และ Social Network

สำหรับ Nokia Asha 501 ถึงแม้จะเป็นระบบปฏิบัติการที่ใหม่ แต่ก็มีแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาให้เกือบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา, ปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, Notes และยังมี Nokia Gift, Camera 5-in-1, The Weather Channel, Assassin’s Creed III, Real Football 2013, Little Big City เพิ่มเข้ามาอีก แน่นอนว่ามีเกมส์จาก EA ให้ดาวน์โหลดฟรีถึง 40 เกมส์เหมือน Asha รุ่นก่อนๆ

นอกจากนี้ ยังมีแอพฯ Counters ไว้สำหรับตรวจนับจำนวน data ที่เราใช้ไป พร้อมทั้งกำหนด Limit ในการใช้ data ไว้ได้ด้วย อีกทั้งยังตรวจนับเวลาที่โทรเข้า โทรออก พร้อมกับการใช้งาน SMS และ MMS ด้วย

Nokia Asha 501 สามารถใช้งานอีเมล์ได้ โดยเพิ่มบัญชีอีเมล์ของเราเข้าไปได้เลย รองรับ Hotmail, Gmail และ Yahoo และสามารถใช้งานอีเมล์ขององค์กรได้

ในส่วนของ Social Network นั้น Nokia Asha 501 ก็มีแอพฯ Facebook และ Twitter มาให้เลย หรือจะทำการ Sign in ใน Accounts เพื่อทำการแชร์ status หรือรูปภาพต่างๆขึ้นไปยัง Facebook และ Twitter ได้ทันที สำหรับ LINE บน Nokia Asha 501 ก็อดใจรอกันอีกนิดนึง ตอนนี้ยังไม่ปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลด แต่มีแน่ๆ

ใช้เบราว์เซอร์ Nokia Xpress เหมือนกับ Nokia Asha รุ่นอื่นๆ ที่ช่วยบีบอัดข้อมูล ลดข้อมูลได้ถึง 90% ช่วยให้มีการทำงานที่เร็วขึ้นและประหยัด data มากขึ้นด้วย และมีความพิเศษอีกอย่างก็คือ เมื่อเปิดหน้าเว็บไซต์แล้วไปเปิดอีก tab เพื่อเปิดหน้าเว็บไซต์ใหม่ หน้าเว็บไซต์ที่เราเคยเปิดไว้ก็ยังทำการโหลดอยู่

บริษัทแอพดังๆ ที่ประกาศเข้าร่วม Asha Platform แล้วได้แก่ Facebook, Twitter, Foursquare, LinkedIn, WeChat, LINE, eBuddy, Weather Channel, Gameloft, Nimbuzz, Namco-Bandai, ESPN ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าต่อไป Asha Platform จะมีแอพฯเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

กล้องหลัก 3.2 ล้านพิกเซล

น่าเสียดายที่กล้องของ Nokia Asha 501 ไม่มีออโต้โฟกัสมาด้วย แต่ความคมชัดที่ได้มาก็ถือว่าทำได้ดีในระดับราคา 2,990 บาท ซูมได้ 3 เท่า ระยะโฟกัสประมาณ 50 ซม. แน่นอนว่าถ่ายภาพระยะใกล้ไม่ดีนัก สามารถตั้งเวลาถ่ายภาพได้ ปรับ White Balance ได้ 4 รูปแบบ ปรับ effect ได้ 4 รูปแบบ และเลือกความละเอียดของภาพได้ 4 ระดับ ในส่วนของการบันทึกวิดีโอ จะสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด QVGA (320 x 240 พิกเซล) ซูมไม่ได้

รูปภาพจาก Nokia Asha 501

ตัวอย่างไฟล์วิดีโอจาก Nokia Asha 501

การเชื่อมต่อ

Nokia Asha 501 รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ micro SIM ไม่รองรับ 3G รอรับสายได้พร้อมกัน 2 ซิม  ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด EGPRS 236.8 kbps ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด GPRS 85.6 kbps  สามารถถอดเปลี่ยนซิม 2 ได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง เชื่อมต่อกับคอมฯด้วยพอร์ต micro USB และสามารถใช้ชาร์จได้ มีช่องสำหรับชาร์จขนาด 2.0 มม. ช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. รองรับการใช้งาน Wi-Fi และ Bluetooth

ใน Nokia Asha 501 มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Slam สามารถส่งไฟล์หรือรายชื่อผ่าน Bluetooth โดยไม่ต้องเสียเวลาจับคู่ แค่เปิดใช้งานและนำเครื่องอื่นๆที่เปิด Bluetooth มาวางไว้ใกล้ๆ แค่นี้ก็จะทำการเชื่อมต่อเองอัตโนมัติ สามารถใช้งานได้กับทุก OS ที่มี Bluetooth (ยกเว้น iPhone ไม่สามารถส่งไฟล์ได้ เพราะ iPhone ไม่รองรับการส่งไฟล์ผ่าน Bluetooth อยู่แล้ว)

แบตเตอรี่

สำหรับการใช้งาน Nokia Asha 501 นั้น ทั้งเล่นเกมส์ ทั้งโทร ทั้งเแชท ทั้งแชร์ ก็สามารถใช้งานได้เกิน 2 วันสบายๆ   เนื่องจากหน้าจอที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก และไม่ได้เชื่อมต่อ 3G เลยช่วยประหยัดพลังงานไปได้เยอะ

วิดีโอรีวิว Nokia Asha 501

ความคิดเห็นจาก NokiaGang

Nokia Asha 501 ถือเป็นมือถือที่มีความคุ้มค่ามาก รุ่นหนึ่งของโนเกียเลยก็ว่าได้ จากความง่ายในการใช้งานของ Asha Platform ใหม่ เพราะมีเพียง 2 หน้าจอหลัก สามารถใช้งานมือเดียวได้สบายๆ หน้า Fastlane ช่วยให้เราใช้งานได้สะดวกขึ้น และไม่ต้องมาคอยหาแอพฯที่เราใช้งานบ่อยๆด้วย หากจะต้องการแชร์ status ไปยัง Facebook และ Twitter ก็สามารถพิมพ์แล้วแชร์จากหน้า Fastlane ได้ทันที หรือจะแชร์รูปภาพ,ไฟล์วิดีโอไปยังเครื่องอื่นๆก็สามารถใช้ Slam ส่งไปได้เลย อำนวยความสะดวกในการแชร์มากขึ้น ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นและเกมส์เพิ่มเติมได้จาก Nokia Store เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไป บวกกับสีสันที่ทางโนเกียคัดเลือกมาแล้วว่า สีสัน สดใส สวยงามจริงๆ และสามารถถอดเปลี่ยนฝาหลังได้ รองรับ Wi-Fi, Bluetooth รอรับสายได้ 2 ซิมพร้อมกัน   ครอบคลุมการใช้งานทั่วไปเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีราคาไม่แพง 2,990 บาท เหมาะสำหรับวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบแชท แชร์ หรือผู้คนทั่วไปที่อยากจะใช้มือถือที่ใช้งานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

จุดเด่น

1. รองรับการใช้งาน 2 ซิม
2. รองรับการใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth
3. ง่ายและสะดวกในการใช้งาน Faslane ของ Asha Platform
4. เปลี่ยนซิม 2 ได้ง่ายด้วย Easy Swap

จุดด้อย

1. ไม่รองรับ 3G
2. กล้องไม่มีออโต้โฟกัส